SHORT CUT
รัฐบาลอินเดียประกาศใช้มาตรการลงทุนใหม่ที่เข้มงวดขึ้น โดยกำหนดให้ Apple ต้องลงทุนในประเทศเป็นมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จึงจะสามารถจำหน่าย iPhone 16 ในตลาดอินเดียได้
สถานการณ์การค้าระหว่างประเทศกำลังเข้มข้นขึ้น เมื่ออินเดียประกาศมาตรการลงทุน บีบให้ Apple ต้องทุ่มเงินกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อแลกกับการปลดแบน iPhone 16 ในประเทศ มาตรการนี้สร้างความฮือฮาในแวดวงธุรกิจเทคโนโลยี และจุดประกายความกังวลให้กับบริษัทข้ามชาติทั่วโลก
แม้จะยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลอินเดีย แต่จากรายงานข่าวและบทวิเคราะห์ต่างๆ ชี้ให้เห็นว่า อินเดียกำลังดำเนินนโยบายเชิงรุก เพื่อดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากบริษัทต่างชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทยักษ์ใหญ่ในวงการเทคโนโลยีอย่าง Apple
การบีบให้ Apple ลงทุนมหาศาลเช่นนี้ ไม่ใช่เพียงเพื่อสร้างรายได้ให้กับประเทศ แต่ยังเป็นการแสดงจุดยืนที่ชัดเจนของอินเดีย ที่ต้องการให้บริษัทต่างชาติมีส่วนร่วมในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศอย่างยั่งยืน อินเดียต้องการผลประโยชน์ที่มากกว่าแค่ยอดขาย แต่ต้องการเห็นการลงทุนที่สร้างงาน สร้างโอกาส และพัฒนาเทคโนโลยีภายในประเทศ
Apple อาจต้องทบทวนกลยุทธ์การลงทุนในอินเดีย เพราะหาก Apple ยอมรับเงื่อนไข อาจส่งผลกระทบต่อแผนการลงทุนในภูมิภาคอื่นๆ การลงทุน 1 พันล้านดอลลาร์ฯ เป็นจำนวนเงินมหาศาล ซึ่งอาจกระทบต่อผลกำไรของ Apple และทำให้ต้องปรับแผนการลงทุนในประเทศอื่นๆ เพื่อรักษาสมดุลทางการเงิน
ในอนาคตบริษัทข้ามชาติอื่นๆ อาจถูกกดดันให้ลงทุนมากขึ้น ประเทศอื่นๆ อาจนำแนวทางของอินเดียไปปรับใช้ เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ ซึ่งอาจนำไปสู่การแข่งขันในการเสนอสิทธิประโยชน์ และการเจรจาต่อรองที่เข้มข้นขึ้นระหว่างรัฐบาลกับบริษัทข้ามชาติ
ผู้บริโภคชาวอินเดียอาจได้รับผลกระทบ หาก Apple ไม่ยอมลงทุน ผู้บริโภคอาจไม่สามารถเข้าถึง iPhone 16 หรือรุ่นใหม่ๆ ในอนาคต ในทางกลับกัน หาก Apple ยอมลงทุน ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นอาจถูกผลักภาระไปยังผู้บริโภค ทำให้ราคา iPhone สูงขึ้น
การตัดสินใจของอินเดียในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงอำนาจต่อรองที่เพิ่มขึ้นของประเทศกำลังพัฒนา ในการกำหนดเงื่อนไขและกฎเกณฑ์ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศ
อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องติดตามดูกันต่อไปว่า Apple และบริษัทข้ามชาติอื่นๆ จะรับมือกับสถานการณ์นี้อย่างไร และอนาคตของการค้าระหว่างประเทศจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใด
ที่มา : SCMP