SHORT CUT
Samsung เปิดตัว Galaxy Ring แหวนอัจฉริยะแกดเจ็ตใหม่ล่าสุดจากซัมซุง ล่าสุด iFixit ได้เจาะลึกรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวแหวน ซึ่งได้พบว่าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนของแหวนไม่สามารถซ่อมหรือเปลี่ยนได้
Samsung Galaxy Ring กำลังเป็นกระแสทั่วโลก เนื่องจากได้มีการเผยข้อมูลจาก iFixit ว่าตัวแบตเตอรี่ของแหวนอัจฉริยะรุ่นใหม่นี้ "อาจสามารถใช้ได้แค่ 2 ปี" ที่สำคัญไม่สามารถซ่อมหรือเปลี่ยนได้ หากแบตเตอรี่เสื่อมต้องซื้อใหม่อย่างเดียว
คนส่วนใหญ่อาจยังคงไม่ทราบว่าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนมีอายุการใช้งาน แถมมีวันหมดอายุติดมาด้วย นั่นอาจไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่ Galaxy Ring ไม่ได้ให้การรับประกันแบตเตอรี่มาด้วย
เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง Oura Ring ซึ่งมีนโยบายการรับประกันแบตเตอรี่แยกต่างหาก จากการรับประกันตัวเครื่อง ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้งานสามารถส่งแหวนไปเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ (โดยมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม) แปลว่า "แม้แหวนอัจฉริยะจะแบตเตอรี่เสื่อมก็สามารถซ่อมได้"
iFixit ได้นำ Galaxy Ring เข้าเครื่อง CT Scan ของ Neptune ซึ่งเหมือนเป็นการเปิดเผยความลับของ Galaxy Ring จากภาพจะเห็นได้ชัดว่า ขั้วต่อของแหวนถูกปิดผนึกไว้ในอุปกรณ์ และไม่มีจุดประสงค์ในการเปลี่ยนหรือซ่อมแซม
iFixit ยังได้เผยภาพการแกะชิ้นส่วนต่างๆของ Samsung Galaxy Ring โดยในภาพเราจะได้เห็นแบตเตอรี่และขดลวดเหนี่ยวนำเชื่อมต่อกับแผงวงจรด้วยขั้วต่อแบบกด ปลายแต่ละด้านของขดลวดถูกบัดกรีเข้ากับแผงวงจรเพื่อประหยัดพื้นที่
อย่างไรก็ตาม iFixit เผยว่าแบตเตอรี่ของ Galaxy Ring ยังไม่สามารถระบุความจุได้อย่างชัดเจน แต่ข้อมูลทางเทคนิคจากเว็บไซต์ของซัมซุงระบุว่า แบตเตอรี่ขนาด 11 (ความจุของแบตเตอรี่จะเปลี่ยนไปตามขนาดแหวน) ปกติแล้วควรจะมีแบตเตอรี่ขนาด 19.5 mAh
ในส่วนของระบบอิเล็กทรอนิกส์ของ Galaxy Ring ไม่มีอะไรใหม่มากนัก LED สีเขียวและสีแดงที่วัดระดับออกซิเจนในเลือดโดยคำนวณปริมาณแสงที่สะท้อนกลับไปยังเซ็นเซอร์ ไปจนถึงระบบไมโครอิเล็กโตรแมคคานิกส์ และ IC ต่างๆ ที่วัดการเคลื่อนไหว ส่วนใหญ่เป็นเทคโนโลยีที่มีอยู่แล้วในแหวนอัจฉริยะอื่นๆ
เมื่อเทียบกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สมัยใหม่อื่นๆอุปกรณ์ชิ้นนี้ถือว่าเรียบง่ายมาก แต่ที่น่าสนใจคือ "ไม่สามารถซ่อมแซมได้" เช่นเดียวกับ Galaxy Buds 3
Galaxy Ring เป็นอุปกรณ์เสริมเทคโนโลยีแบบใช้แล้วทิ้งที่ออกแบบมาให้ใช้งานได้ไม่เกิน 2 ปี แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าวงแหวนเหล่านี้แต่ละวงจะกลายเป็นปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ (e-waste) ที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
ปัจจุบัน Samsung มีโครงการรับคืนผลิตภัณฑ์เก่าเพื่อนำไปรีไซเคิล ซึ่งช่วยลดปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ถูกทิ้งอย่างไม่ถูกวิธี และได้นำวัสดุรีไซเคิลมาใช้ในการผลิตผลิตภัณฑ์บางรุ่น เพื่อลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ
ปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทั่วทั้งอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ไม่ใช่เฉพาะ Samsung บริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ล้วนแต่เผชิญกับความท้าทายในการจัดการกับขยะอิเล็กทรอนิกส์ทั้งสิ้น
ที่มา : iFixit