SHORT CUT
Tesla (TSLA) ราคาหุ้นดีดตัวแรงกว่า 69% หลังโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ นักลงทุนคาดการณ์ "อีลอน มัสก์" ผู้บริหารเทสลา จะมีบทบาทสำคัญในรัฐบาลชุดใหม่ หนุนนโยบายเอื้อธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า-เทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติ
Elon Musk ซีอีโอของ Tesla ขึ้นแท่นมหาเศรษฐี 400,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นคนแรกของโลกที่มีทรัพย์สินทะยานขึ้นอย่างรวดเร็วถึง 77% หลังโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งเป็นประธานาธิปดีสหรัฐฯ
Tesla ถือเป็นผู้นำตลาดรถยนต์ไฟฟ้า เพราะกำลังได้รับความสนใจอย่างมากจากนักลงทุนทั่วโลก ด้วยนวัตกรรมล้ำสมัย ผลประกอบการที่แข็งแกร่ง และวิสัยทัศน์อันกว้างไกลของ Elon Musk ทำให้ TSLA กลายเป็น "หุ้นดาวเด่น" ที่น่าจับตามองสำหรับนักลงทุนทั้งหน้าใหม่และเก่าในตลาดหุ้นสหรัฐฯ
ราคาหุ้น Tesla (TSLA) พุ่งแรง แตะระดับสูงสุดใหม่ที่ 424.77 ดอลลาร์ (11 ธ.ค. 67) เพิ่มขึ้น 71% ในปีนี้ ทำ New Highในรอบ 3 ปี นับตั้งแต่พฤศจิกายน 2564
นักลงทุนคาดการณ์ว่า รัฐบาลทรัมป์จะออกนโยบายสนับสนุนเทคโนโลยีรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ (FSD) และยกเลิกภาษีรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นผลดีต่อธุรกิจของเทสลา และ Tesla ก็ยังมีธุรกิจอื่นๆ เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Roof) แบตเตอรี่ (Powerwall) ที่อาจได้รับอานิสงส์จากนโยบายทรัมป์เช่นกัน
ประกอบกับ Elon Musk ยังได้รับตำแหน่งหัวหน้าร่วมกระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาล แม้จะอยู่นอกรัฐบาล แต่ก็ทำให้เขามีบทบาทในวอชิงตัน และใกล้ชิดทำเนียบขาว ซึ่งนี่อาจเป็นแรงผลักดันให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนมีมากขึ้นกว่าเดิม
ความเห็นเชิงบวกจากนักวิเคราะห์ ถือเป็นอีกแรงผลักดันสำคัญ โดยราคาหุ้น Tesla (TSLA) เพิ่มขึ้น 69% หลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ (5 พ.ย. 67) ดันมูลค่าตลาดบริษัทเพิ่มขึ้นกว่า 5.5 แสนล้านดอลลาร์
Adam Jonas นักวิเคราะห์ยานยนต์ชื่อดังจาก Morgan Stanley ยังคงมั่นใจในธุรกิจ Tesla ล่าสุดได้ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายหุ้น TSLA เป็น 400 ดอลลาร์ จากเดิม 310 ดอลลาร์ พร้อมยืนยันคำแนะนำ "ซื้อ" (Overweight) และยกให้ Tesla เป็น "หุ้นเด็ด" ประจำใจ
การที่ราคาหุ้น Tesla พุ่งสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่ออนาคตของบริษัท ภายใต้นโยบายสนับสนุนของรัฐบาลทรัมป์ และบทบาทของ Elon Musk ในรัฐบาลชุดใหม่
ที่มา : Bloomberg