CATL และ SVOLT ค่ายแบตเตอรี่ EV ยักษ์ใหญ่ของโลก กำลังเตรียมตั้งโรงงานผลิตในประเทศไทย ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะทำให้ราคารถยนต์ EV ในไทยอาจถูกลง
CATL และ SVOLT บริษัทผู้ผลิตแบตเตอรี่ยักษ์ใหญ่ของรถยนต์ EV กำลังเตรียมจะลงทุนตั้งโรงงานในประเทศไทย เพื่อรองรับฐานการผลิตรถยนต์ EV
ซึ่งแบตเตอรี่เป็น Supply Chain ที่สำคัญมากซึ่งอยู่ราวๆ 40-50% ของราคารถยนต์ไฟฟ้า โดยขณะนี้ทางรัฐบาลอยู่ในระหว่างการตกลง
CATL เป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่ EV สัญชาติจีน อันดับหนึ่งของโลก มีส่วนแบ่ง 40.83% ไม่ว่าจะเป็น BMW ,Honda, Toyota, Volvo หรือแม้กระทั่ง Tesla
ซึ่ง CATL และ ARUN+ บริษัทสัญชาติไทย ได้ร่วมกันลงทุนกว่า 3,600 ล้านบาทเพื่อก่อตั้งโรงงานผลิตแบตเตอรี่ในประเทศไทย โดยจะตั้งโรงงานในโซน EEC จะเริ่มการผลิตในปี 2024 นี้ มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 6 GWh ซึ่งถือว่ามีกำลังการผลิตจำนวนมาก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
และทาง ARUN+ ยังได้วางแผนการพัฒนาร่วมกับ CATL ในการทำสถานีสลับแบตเตอรี่ในอนาคต ซึ่ง CATL มี EVOGO อยู่แล้วซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่สามารถสลับแบตเตอรี่และศึกษารีไซเคิลรถยนต์ไฟฟ้าด้วย
ค่ายที่สองที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทยก็คือ SVOLT ผู้ผลิตแบตเตอรี่ของ Great Wall Motors อยู่อันดับที่ 8 ของโลก ส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 1.66% กำลังการผลิต 2.6 GWh ส่วนใหญ่ลูกค้ารถยนต์ไฟฟ้าจีน เช่น Geely,Hozon,Xpeng เป็นต้น
ซึ่ง SVOLT ก็ได้วางแผนตั้งโรงงานในประเทศไทย มีงบลงทุนรวม 1,000 ล้านบาท เพื่อสร้างโรงงานแบตเตอรี่และส่งให้กับค่ายรถ เหตุผลที่ SVOLT เข้ามาตั้งโรงงานในไทยเนื่องจากตามมาตรการลดภาษี ทาง GWM ต้องผลิตรถคืนในประเทศไทยภายในปี 2567
SVOLT วิจัยและผลิตแบตเตอรี่มาเป็นเวลา 10 กว่าปี เพื่อใช้ในเครือของ GWM แต่ได้ตั้งโรงงานใหม่ SVOLT Energy ผลิตให้แบรนด์อื่นๆ เพื่อทำให้ลดต้นทุนแบตเตอรี่ได้มาก ปัจจุบันมีโรงงานกว่า 11 แห่ง
ยังมีอีกหลายค่ายที่สนใจเข้ามาตั้งโรงงานผลิตแบตเตอรี่ในประเทศไทย เช่น BYD เจ้าของเทคโนโลยี Blade Battery ซึ่งเป็นรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก เป็นรองจาก CATL เพียงหนึ่งอันดับ และมีส่วนแบ่ง 29.11% ของโลก ปัจจุบันแบตเตอรี่ของ BYD ก็ได้มีทั้ง Ford , Tesla ถูกนำไปใช้อีกด้วย ซึ่งมีการเข้ามาตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแล้ว ต้องลุ้นกันอีกทีว่าจะตั้งโรงงานผลิตแบตเตอรี่ด้วยหรือไม่