Hypermiling (ไฮเปอร์ไมล์) เทคนิคการขับรถ EV ให้รถวิ่งได้ไกลขึ้นกว่าเดิม

Hypermiling คือการฝึกใช้เทคนิคการขับเพื่อประหยัดเชื้อเพลิงในแบบต่างๆ เพื่อดึงเอาประสิทธิภาพสูงสุดจากรถคันนั้นๆ คนขับบางคนจะเริ่มต้นด้วยการประเมินว่าพวกเขาจำเป็นต้องขับเลยหรือไม่ จากนั้นขับไปในทิศทางที่เลี้ยวน้อยที่สุด หรือเช่นการลดความเร็วลงเพื่อให้เชื้อเพลิงน้อยที่สุด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

• Huawei เปิดตัว Landian E5 รถ EV วิ่งไกล 1,150 กม. ราคาเริ่มแค่ 7 แสนบาท
• DHL มุ่งเป้า Go Green ย้ำความเป็นผู้นำด้านโลจิสติกส์ ส่งพัสดุด้วยรถ EV
• Genesis GV60 รถ EV ระบบอัจฉริยะเต็มขั้น ชาร์จไฟไร้สาย สแกนใบหน้าปลดล็อกรถ

ซึ่งการ Hypermiling นิยมทำกันในต่างประเทศจำนวนมาก ล่าสุดมีการทดสอบ Tesla Model 3 ใช้ความเร็วอยู่ที่ประมาณ 32-48 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขับวนอยู่ในเส้นทางราว 1.6 กิโลเมตร มีหยุดบ้างบางช่วง สรุปใช้เวลาทั้งหมดราว 32 ชั่วโมงโดยไม่เปิดแอร์ ซึ่งผู้ทดสอบทวีตบอกด้วยว่าบางช่วงอุณหภูมิในรถขึ้นไปสูงถึงราว 42 องศาด้วยซ้ำ ซึ่งวิ่งได้ไกลถึง 975 กม.

เห็นได้ชัดว่าการทำ "ไฮเปอร์ไมล์" ทำให้รถวิ่งได้เกินระยะที่เคลมไว้กว่า 2 เท่า ดังนั้นการใช้ความเร็วต่ำและทำตามเทคนิคจึงเป็นสิ่งที่น่าสนใจและทำได้จริงหากเราใช้งานรถเดินทางไกลและไม่มีสถานีชาร์จ

วิธีทำ Hypermiling กับรถยนต์ไฟฟ้า 

1.รักษาความเร็วที่ 30-40 กม./ชม. 

2.หลีกเลี่ยงการเบรค หาเส้นทางที่จราจรไม่ติดขัด หากจำเป็นต้องเบรค การเหยียบอีกครั้งให้เพิ่มความเร็วแบบช้าๆ เพื่อใช้ Regenerative Braking

3.เติมลมยางให้แข็งกว่าปกติเล็กน้อย เพื่อลดแรงต้านของการหมุน

4.ลดการใช้ไฟฟ้า เช่น การชาร์จมือถือ ปรับอุณหภูมิแอร์หรือปิดแอร์ 

อย่างไรก็ตาม การขับรถตามเทคนิค Hypermiling หรือ ไฮเปอร์ไมล์ อาจใช้ไม่ได้ทุกครั้ง แนะนำให้ใช้ในกรณีเดินทางผิดแผน หรือไม่สามารถหาสถานีชาร์จได้ เนื่องจากการขับขี่ด้วยความเร็วต่ำในบางพื้นที่ก็อันตราย เช่น ทางด่วน , มอเตอร์เวย์