หุ้น Snap ร่วง 25% หลังประกาศผลประกอบการไตรมาส 3

Snap บริษัทแม่ของ Snapchat ประกาศผลประกอบการช่วงไตรมาสสามที่ 1.13 พันล้านดอลลาร์ (4.29 หมื่นล้านบาท) เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 6% จากปีก่อน แต่ยังคงน้อยกว่าการคาดการณ์จาก Wall Street เนื่องจาก Snap ต้องเผชิญกับงบประมาณผู้ลงโฆษณาที่เข้มงวดขึ้นในภาวะเศรษฐกิจถดถอย

ในจดหมายถึงนักลงทุน Snap ระบุว่า การเติบโตของรายได้ชะลอตัวจากปัจจัยหลายประการ รวมถึงการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นและความกระวนกระวายใจจากผู้ลงโฆษณาที่ประกอบธุรกิจหลัก

"เราพบว่าพันธมิตรโฆษณาของเราในหลายอุตสาหกรรมกำลังลดงบประมาณการตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเผชิญกับปัญหาสภาพแวดล้อมในการดำเนินงาน แรงกดดันด้านต้นทุนจากเงินเฟ้อ และต้นทุนที่สูงขึ้น" Snap กล่าวในจดหมาย

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง :

• Google ประกาศ ชะลอจัดจ้างงานช่วงครึ่งปีหลัง
• 2 ผู้บริหาร Snap เตรียมย้ายไป Netflix คุมงานขายและโฆษณา
• Snap เตรียมเลิกจ้างพนักงานกว่า 20% กระทบมากกว่า 1,200 ชีวิต
• Snapchat เตรียมเปิดเวอร์ชั่นเว็บบนคอมพิวเตอร์ กลายเป็นคู่แข่งใหม่ Zoom

ส่วนแบ่งของ Snap ลดลงเกือบ 25% ในการซื้อขายหลังเวลาทำการหลังจากรายงานรายได้

รายงานของ Snap เริ่มต้นสิ่งที่คาดว่าจะเป็นช่วงรายได้ของเทคโนโลยีที่เงียบขรึม เนื่องจากการประกาศเลิกจ้าง การหยุดจ้างงาน และมาตรการลดต้นทุนอื่น ๆ ได้กลายเป็นเรื่องปกติมากขึ้นในอุตสาหกรรมท่ามกลางความกลัวว่าจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย

Snap ช่วยทำให้เกิดความวิตกกังวลในหมู่นักลงทุนด้านเทคโนโลยีเมื่อเตือนในเดือนพฤษภาคมว่าเศรษฐกิจแย่ลงเร็วกว่าที่คาดไว้ โดยลดการคาดการณ์รายได้และกำไรสำหรับไตรมาสนี้ ในปลายเดือนสิงหาคม Snap ได้ประกาศแผนการเลิกจ้างพนักงานประมาณ 20% ของพนักงานทั่วโลกมากกว่า 6,400 คนหรือพนักงานมากกว่า 1,200 คน

เช่นเดียวกับบริษัทเทคโนโลยีอื่น ๆ Snap ต้องเผชิญกับลมพัดจากภาวะเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น และความกระวนกระวายใจทางเศรษฐกิจในวงกว้าง ซึ่งทำให้ผู้โฆษณาและผู้บริโภคบางรายต้องคิดใหม่เกี่ยวกับการใช้จ่ายของพวกเขาในสหรัฐอเมริกาและต่างประเทศ

Snap ยังเผชิญกับการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นจากคู่แข่งที่เติบโตอย่างรวดเร็วเช่น TikTok และยังคงสำรวจธุรกิจโฆษณาดิจิทัลของตนหลังจากการเปลี่ยนแปลงความเป็นส่วนตัวที่ดำเนินการโดย Apple ซึ่งทำให้นักการตลาดกำหนดเป้าหมายผู้ใช้ด้วยโฆษณาได้ยากขึ้น

มีความหวังริบหรี่ในรายงานของ Snap รวมถึงจำนวนผู้ใช้งานรายวันเพิ่มขึ้น 19% เมื่อเทียบเป็นรายปีแตะ 363 ล้านคนในไตรมาสที่สาม ผลขาดทุนสุทธิยังน้อยกว่าที่ Wall Street คาดไว้ ขาดทุนที่ 360 ล้านดอลลาร์ (1.36 หมื่นล้านบาท) ในไตรมาสนี้ เทียบกับปีก่อนที่ขาดทุน 72 ล้านดอลลาร์ (2.73 พันล้านบาท) การขาดทุนส่วนใหญ่กว่า 155 ล้านดอลลาร์ (5.88 พันล้านบาท) มาจากการปรับโครงสร้างที่เกี่ยวข้องกับการเลิกจ้าง

Snap ปฏิเสธที่จะให้คำแนะนำทางการเงินในช่วงสามเดือนสุดท้ายของปี ในจดหมายถึงนักลงทุน กล่าวเพียงแค่ว่า: "เราคาดหวังว่าสภาพแวดล้อมในการดำเนินงานจะยังคงท้าทายต่อไปในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า และเชื่อว่าการดำเนินการที่เรากำลังดำเนินการอยู่จะเป็นหนทางที่ชัดเจนสำหรับ Snap"