svasdssvasds

J&T มั่นใจเป็นเบอร์ 1 ในขนส่งเอกชน ไม่พร้อมตอบตัวเลข ชูเน้นประสิทธิภาพ

J&T มั่นใจเป็นเบอร์ 1 ในขนส่งเอกชน ไม่พร้อมตอบตัวเลข ชูเน้นประสิทธิภาพ

เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส ชูเป็นเบอร์ 1 ธุรกิจขนส่งเอกชน เตรียมขยายจุดรับส่งเพิ่ม ช่วยให้ผู้บริโภคสะดวกมากขึ้น ตั้งเป้าเพิ่มประสิทธิภาพทุกด้านเพื่อรักษาการเป็นเบอร์ 1 ของตลาด

SHORT CUT

  • J&T express มั่นใจเป็นเบอร์ 1 ในธุรกิจขนส่งเอกชน
  • ชูจุดแข็งด้านประสิทธิภาพในการให้บริการ
  • มองโอกาสในการเติบโตจากอีคอมเมิร์ซไทยที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว

เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส ชูเป็นเบอร์ 1 ธุรกิจขนส่งเอกชน เตรียมขยายจุดรับส่งเพิ่ม ช่วยให้ผู้บริโภคสะดวกมากขึ้น ตั้งเป้าเพิ่มประสิทธิภาพทุกด้านเพื่อรักษาการเป็นเบอร์ 1 ของตลาด

นางลิลลี่ เฉิน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส ประเทศไทย กล่าวว่า เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรสเป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์ขนาดใหญ่ระดับโลก ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ในบริการขนส่งพัสดุด่วนและได้รับความนิยมิย่างดีในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และจีน

นอกจากนี้ยังมีความเร็วในการจัดส่งสินค้าถือมือผู้รับเพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบปี 2022-2023 ยอดพัสดุเติบโตมากขึ้นกว่า 50% เมื่อเทียบปี 2022-2023 และยอดพัสดุในปี 2024 ตั้งแต่ต้นปีจนถึง 27 มีนาคม เติบโตมากถึง 80% เมื่อเทียบกับปี 2023

ทั้งนี้ยังมีความสามารถในการจัดการสินค้ากลุ่ม Fulfillment เฉลี่ย 150,000 คำสั่งซื้อต่อวัน ด้วยความสามารถในการคัดแยกพัสดุ สูงถึง 4 ล้านชิ้นต่อวัน คลังสินค้าและศูนย์กระจายสินค้าที่ใหญ่ที่สุดถึง 1 แสนตารางเมตรและพนักงานทั้งหมดกว่า 40,000 คน

การแข่งขันสูง J&T มั่นใจเป็นเบอร์ 1

อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารของเจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส ตอบว่า การแข่งขันในธุรกิจขนส่งค่อนข้างสูงจากการเติบโตของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในไทย

ดังนั้น การเติบโตของบริษัทจึงมาจากลูกค้าที่ใช้บริการอย่างต่อเนื่อง ประสิทธิภาพในการทำงาน ความเร็วและระยะเวลาในการจัดส่งที่สามารถเช็คพัสดุได้ตลอด

นอกจากนี้ การเติบโตกว่า 50% ของเจแอนด์ที มาจากทุกแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซและความพึงพอใจของลูกค้าทำให้กลับมาใช้งานอย่างต่อเนื่อง 

ซึ่งความท้าทายต่อจากนี้คือเรื่องของการแข่งขันเรื่องราคาร (Price war) ที่บริษัทไม่อยากให้ไปเน้นในเรื่องนี้ แต่อยากรักษาประสิทธิภาพในการจัดส่งและราคาที่มาตรฐานกับสภาวการณ์ในปัจจุบัน

จุดรับส่งสินค้าครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ

ทั้งนี้ เจแอนด์ที ยังมองเรื่องของการขยายจุดให้บริการลูกค้าเพิ่มเติม จากปัจจุบันที่มีอยู่ 30,000 จุดทั่วประเทศ แบ่งเป็น กรุงเทพ 40% ต่างจังหวัด 60% และยังมองการขยายตัวในกลุ่มบริการขนส่งอย่าง MRT เพิ่มเติม เพื่อให้ลูกค้าสะดวกในการใช้บริการ

ส่วนเรื่องของจำนวนรถให้บริการนั้น เราไม่อาจบอกเรื่องของจำนวนรถได้แต่รับรองว่ามีรถบรรทุก 4 ล้อ เพียงพอต่อการใช้งานช่วงไฮซีซันแน่นอน ส่วนการเลือกใช้รถอีวีเพื่อลดต้นทุนนำ้มันหรือไม่นั้น บริษัทยอมรับว่ามีการพูดคุยและกำลังดูสถานการณ์อยู่แต่ยังไม่ตัดสินใจว่าจะใช้หรือไม่

related