ใกล้เปิดเทอมเข้ามาแล้วหลังจากปิดภาคเรียนมานานเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทางองค์การค้าของ สกสค. ได้ร่วมกับ เจเนซิส มีเดียคอม ทำแพลตฟอร์ม dbook ตัวช่วยเร่งเสริมความรู้ ทักษะดิจิทัล เพื่อรับมือกับปัญหานักเรียนเผชิญกับภาวะถดถอยทางการศึกษาหลังปิดภาคเรียนไปนาน
องค์การค้าของ สกสค. และ ‘เจเนซิส มีเดียคอม’ จัดทำแพลตฟอร์ม ‘dbook’ ตัวช่วยเร่งเสริมความรู้ ทักษะของนักเรียน เตรียมความพร้อมให้ก้าวสู่โลก Metaverse ด้วยโมเดลการเรียนแบบ 3D/VR เน้นการเรียนเฉพาะรายบุคคล ตลอดปีการศึกษา 2565 หวังเพิ่มโอกาสในการเรียนนอกห้องเรียน ช่วยลดช่องว่างของภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ ซึ่งเป็นผลกระทบจากการปิดเรียนเพราะการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
นายปองธรรม อินทร์ไทร หัวหน้าฝ่ายอำนวยการและพัฒนาธุรกิจ องค์การค้าของ สกสค. ได้กล่าวถึง การเปิดภาคเรียนใหม่ของปีการศึกษา 2565
ที่กำลังใกล้เข้ามาในกลางเดือนพฤษภาคมนี้ หลังจากโรงเรียนทั่วประเทศถูกปิดในช่วงปีการศึกษาที่ผ่านมา เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ
โรคโควิด-19 ซึ่งถือเป็นวิกฤตและสร้างความท้าทายให้แก่วงการการศึกษาเป็นอย่างมากจากการปิดตัวชั่วคราวของโรงเรียนส่งผลให้นักเรียนจำนวนมากเผชิญกับภาวะถดถอยทางการศึกษา (Learning Loss) ทำให้เกิดช่องว่างทางความรู้ ทักษะ และพัฒนาการตามช่วงอายุ โดยการร่วมมือระหว่างองค์การค้าของ สกสค. และบริษัท เจเนซิส มีเดียคอม จำกัด ผู้ให้บริการสื่อดิจิทัลทางการศึกษา เล็งเห็นโอกาสในการเสนอ ‘dbook’ แพลตฟอร์ม 4 อิน 1 ที่เป็นแพลตฟอร์มในการเรียนการสอน ห้องสมุดออนไลน์ และคลังทรัพยากรระดับ World-Class การันตีด้วยรางวัลมากมาย ด้วยการมุ่งสร้างความสำเร็จให้แก่ผู้เรียน สร้างมิติใหม่ในการเรียนรู้
เนื้อหาที่น่าสนใจ :
5 อันดับ Smart City 2022 เอเชียเข้าวิน 3 เมือง นำขบวนด้วยเซี่ยงไฮ้ ตามด้วยโซล
District 2020 สมาร์ทซิตี้แห่งใหม่ของ UAE ที่เริ่มจากอีเวนต์ EXPO 2020 Dubai
กระทรวงศึกษาธิการมีแนวทางที่จะจัดการปัญหาภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ด้วยแนวทางการเรียนรู้แบบ Active Learning เพื่อขับเคลื่อนการเรียนการสอนในปีการศึกษา 2565 ซึ่งประกอบไปด้วย การเสริมสร้างความรู้ การสร้างทักษะที่เข้มข้นและการส่งเสริมทักษะชีวิต หรือทักษะทางสังคม โดยตั้งใจที่จะเร่งฟื้นฟูการเรียนรู้ที่สูญเสียไป ให้กลับคืนมาอย่างเร็วที่สุด ด้วยเหตุนี้ ‘องค์การค้าของ สกสค.’ และ ‘เจเนซิส มีเดียคอม’ จึงเล็งเห็นความสำคัญในการผลักดัน ‘dbook’ ออกสู่ตลาดเพื่อเพิ่มโอกาสให้นักเรียนที่ประสบปัญหาภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ได้เรียนรู้อย่างอิสระในแบบที่ตนเองต้องการ (On-demand Learning) และแบบเฉพาะรายบุคคล (Personalized Learning) เสริมกับการเรียนรู้ในห้องเรียนในปีการศึกษานี้
แพลตฟอร์ม ‘dbook’ ยังประกอบไปด้วยทรัพยากรทางการศึกษาอื่นๆ เช่น วิดีโอ บทเรียนดิจิทัล คลังภาพ คลังเสียง เกมการศึกษา เป็นต้น และคลังโมเดลการเรียนรู้ 3D/VR ที่ใหญ่ที่สุดในโลกมากกว่า 1,200 บทเรียน ที่จะสอนและอธิบายถึงคอนเซ็ปต์ที่ซับซ้อนและยากให้เข้าใจง่ายขึ้นผ่านภาพ 3 มิติ โดยจะเชื่อมไปสู่โลกแห่งอนาคตด้วยการเปิดประสบการณ์การ Virtual Reality (VR) สร้างภาวะการเรียนรู้ให้นักเรียนก้าวเข้าสู่โลกของ Metaverse หรือโลกเสมือนจริง ซึ่งเป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรงในโลกการศึกษาพร้อมสนับสนุนการเรียนรู้ที่เน้นให้นักเรียนมีส่วนร่วมและมีปฏิสัมพันธ์กับกิจกรรมการเรียนรู้ผ่านการปฏิบัติที่หลากหลายรูปแบบ (Active Learning) เกิดแรงจูงใจในการอยากรู้อยากเห็นและสร้างความสนุกสนาน
นอกจากนี้แพลตฟอร์ม ‘dbook’ ยังเน้นการเรียนรู้ทางด้านภาษา โดยโมเดล 3D/VR สามารถใช้งานได้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ช่วยทำให้ดึงศักยภาพของนักเรียนออกมาได้อย่างมากที่สุด ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการประกาศว่า ปีนี้ปีแห่งการฟื้นฟูการเรียนรู้ที่สูญหายไป พร้อมทั้งปูความรู้ ความเข้าใจและเปิดประสบการณ์ให้นักเรียนเข้ามามีส่วนในเทรนด์การศึกษาแห่งอนาคตอย่าง Metaverse