เป็นข่าวที่ทำเอาหลายคนช็อกกับการยุติงานในวงการบันเทิงของ นักแสดงระดับตำนานแห่งวงการฮอลลีวูด Bruce Willis (บรูซ วิลลิส) เนื่องจาก Aphasia (อะเฟเซีย) หรือภาวะเสียการสื่อความ ทำให้มีปัญหาในการพูด สื่อสาร และการทำความเข้าใจ
Aphasia (ภาวะเสียการสื่อความ) มักเป็นผลมาจากสมองได้รับความเสียหายจากภาวะเส้นเลือดในสมองแตกหรือได้รับการบาดเจ็บบริเวณศีรษะ ทำให้มีความปกติในด้านทักษะในการสื่อสาร ภาวะเสียการสื่อความนั้นมาจากการที่สมองส่วนทำหน้าที่ควบคุมการใช้ภาษาได้รับความเสียหาย ทำให้การลำเลียงเลือดเข้าสู่บริเวณดังกล่าวถูกขัดขวางจนทำให้เนื้อสมองตายในที่สุด ซึ่ง Aphasia (อะเฟเซีย) อาจเกิดขึ้นอย่างกะทันหันหลังเส้นเลือดในสมองแตก หรือในบางรายอาจเกิดขึ้นอย่างช้าๆ โดยสาเหตุอาจมาจากเนื้องอก โรคทางประสาท หรือโรคสมองเสื่อม ฯลฯ
อาการของโรค Aphasia
-พูดไม่ได้ สื่อสารไม่ได้แม้กระทั่งการใช้ภาษากาย
-ฟังคำพูดไม่เข้าใจ ตอบไม่ตรงคำถาม
-พูดไม่ชัด
-การนึกคำพูดลำบาก
-บอกความต้องการไม่ได้ บอกชื่อสิ่งของที่ใช้ไม่ได้ ลืมชื่อคนในครอบครัว
-ทำตามคำสั่งไม่ได้
-พูดตามไม่ได้
-มีความลำบากในการเคลื่อนไหวอวัยวะในการพูด ปาก ลิ้น ขากรรไกร
เนื้อหาที่น่าสนใจ :
รู้จัก Alopecia Areata (โรคผมร่วงเป็นหย่อม) ที่ภรรยา วิลล์ สมิธ เผชิญอยู่
ส่องพรมแดง Oscar 2022 (ออสการ์ 2022) กับแฟชั่นลุคปังของเหล่าเซเลบ
Aphasia (ภาวะเสียการสื่อความ) จะมีความผิดปกติของความเข้าใจและการใช้ภาษา มักมีความผิดปกติในความสามารถทางภาษาทุกด้าน คือ ความผิดปกติในการฟัง การพูด การอ่านและการเขียน โดยแต่ละคนอาจมีความรุนแรงในแต่ละทักษะไม่เท่ากัน ผู้ที่เป็น Aphasia อาจมีความลำบากในการฟังเข้าใจ คำพูด วลีและประโยค มีความลำบากในการนึกหาคำศัพท์หรือคำพูดที่ถูกต้อง เช่น ชื่อคน สถานที่ สิ่งของ ทำให้พูดผิดหรือใช้คำอื่นมาแทน
นอกจากนี้ยังมีความลำบากในการจำคำพูด ทำให้ไม่สามารถเข้าใจคำพูด และการตอบสนองอาจผิดพลาดความผิดปกติของไวยากรณ์ในภาษาทำให้การเรียงลำดับและการจัดรูปประโยคผิดได้ หรือพูดคำที่ไม่มีความหมายเลย มีความผิดปกติในการใช้ภาษา ทั้งภาษาพูด และภาษาเขียน พูดลำบาก พูดได้ช้า พูดเป็นประโยคสั้นๆ
วิธีการป้องกันโรค Aphasia
การปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวันดังต่อไปนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่สร้างความเสียหายต่อสมองและดูแลสุขภาพของสมอง
-ออกกำลังกายเป็นประจำ
-ควรรับประทานอาหารที่มีโซเดียมและไขมันต่ำ
-งดการสูบบุหรี่
-ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่เหมาะสมและเท่าที่จำเป็น
-ควบคุมระดับความดันโลหิตและไขมันในเลือด
-ผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน หรือมีปัญหาที่เกี่ยวข้องกับระบบการไหลเวียนโลหิต ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างสม่ำเสมอ
-หากสงสัยว่ามีอาการของภาวะเส้นเลือดในสมองแตก หรือภาวะการเต้นของหัวใจผิดปกติ ควรรีบพบแพทย์