อัพเดท นาฬิกาสายลุย โดดเด่นเรื่องดีไซน์และวัสดุสุดทน ใส่ได้ทั้งชายหญิง
ผ่านไปครึ่งปีแล้ว ได้เวลาอัพเดทนาฬิกาข้อมือคอลเลคชั่นครึ่งปีหลังกันแล้ว หลายคนกำลังมองหานาฬิกาสายลุย ที่สามารถแมทช์ได้กับทุกลุค จะใส่เล่นกีฬา หรือวันทำงาน เพื่ออัพลุคในวันนั้นให้ดูมีมีดีเทล
นาฬิกาข้อมือในปัจจุบันนั้นให้ความสำคัญกับเรื่องดีไซน์ ที่สำคัญวัสดุคงทนต่อทุกโอกาสการใช้งาน แถมยังสามารถใส่ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง
Rado แบรนด์นาฬิกาจากสวิตเซอร์แลนด์ ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น "ผู้เชี่ยวชาญด้านวัสดุ" และนาฬิการุ่น Captain Cook ก็เป็นหนึ่งในนาฬิการุ่นที่เป็นตำนานของ Rado ที่มีมากว่า 60 ปี รังสรรค์ขึ้นจากวัสดุชั้นเลิศที่ผู้เชี่ยวชาญวัสดุให้การยอมรับ ด้วยการนำ High-Tech Ceramic มาใช้กับทั้งตัวเรือนและสาย ซึ่งวัสดุนี้มีคุณสมบัติป้องกันรอยขีดข่วน และไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ มาพร้อมกลไกคุณภาพสูง คือ คาลิเบอร์ (Calibre) R734 มีพลังงานสำรองให้สูงถึง 80 ชั่วโมง กันน้ำได้ในระดับ 30 บาร์ หรือ 300 เมตร และขดลวดขนาดเล็ก NivachronTM Hairspring ช่วยปกป้องนาฬิกาจากสนามแม่เหล็กรอบๆ ตัวในชีวิตประจำวันของเราได้อีกด้วย
นาฬิการุ่นนี้ยังใส่ดีไซน์ความหรูหราเข้าไปในทุกดีเทล เมื่อมองลึกลงไปถึงพื้นหลังของหน้าปัดและตัวเรือนที่เป็นคริสตัลแซฟไฟล์สีดำ จะได้เห็นกลไกการทำงานข้างใน การขยับของฟันเฟืองต่างๆ โดยที่ขณะเดียวกันกลับไม่รบกวนสายตาในการดูเวลาบนหน้าปัดแต่อย่างใด เพราะทั้งสัญลักษณ์สามเหลี่ยมบนกรอบหน้าปัด เข็มนาฬิกา และลูกศรขนาดใหญ่บนเข็มนาฬิกาประจำรุ่น Captain Cook นั้นแต่งแต้มด้วยพรายน้ำ SuperLumiNova® สีขาวพิเศษ ทำให้เรามองเห็นได้อย่างชัดเจนในที่มืด ตัวหน้าปัดที่สวยสะดุดตานี้ยังมีสัญลักษณ์สำคัญของ Rado นั่นคือสมอเรือหมุนได้ อยู่ที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา และทั้งหมดนี้อยู่ภายใต้เกราะป้องกันอย่างคริสตัลแซฟไฟร์
เนื้อหาที่น่าสนใจ :
-
Never Change, Ever Change ของ HOMME PLISSÉ ISSEY MIYAKE เปิดตัวผ่านออนไลน์
-
RADO เปิดตัวนาฬิกาคอลเลคชั่นใหม่ Captain Cook x Marina Hoermanseder
-
ส่องรองเท้ากีฬาสุดคูลในซีซั่นนี้ แมทช์ง่ายไม่ว่าสายสตรีทหรือสายสปอร์ต
G-SHOCK FROGMAN Composite Band Edition
G-SHOCK Limited รุ่นใหม่ กับ G-SHOCK FROGMAN Composite Band Edition มีระบบปฏิบัติการแบบอนาล็อกและสาย Composite ที่หรูหรา เท่ และน้ำหนักเบาสบายข้อมือ เต็มไปด้วยฟังก์ชั่นทั้ง Bluetooth, Tough Solar, Multiband 6, Smart Access ตอบโจทย์การใช้งานแบบมืออาชีพ และอีกเรือน G-SHOCK MTG Blue Pheonix (Limited Edition) ดีเทลโดดเด่น สะดุดตาทุกมุมมอง ได้แรงบันดาลใจจากนกฟีนิกซ์สีน้ำเงินในตำนาน
Garmin DESCENT MK2
นาฬิกาข้อมือรุ่นพิเศษที่เป็นเหมือนไดฟ์คอมพิวเตอร์ในรูปแบบนาฬิกาข้อมือที่มีขนาดเล็ก สีสันและดีไซน์โดดเด่นเพื่อการสวมใส่ในชีวิตประจำวันนั้นง่ายขึ้น และฟังก์ชั่นครอบคลุมสำหรับผู้ที่ชอบกีฬาดำน้ำ กับหน้าจอแสดงผลขนาด 1.2 นิ้ว แต่ยังมองเห็นได้อย่างชัดเจนแม้อยู่กลางแดดจ้าด้วยหน้าจอ sapphire ดีไซน์สวยงามและสายที่ปรับเปลี่ยนได้ให้เข้ากับทุกลุค เปลี่ยบนลุคแมทช์ให้เข้ากับโลกใต้น้ำและบนบก จุดเด่นอีกอย่างของนาฬิกาเรือนนี้ก็คือ เทคโนโลยี ซัพพอร์ตการดำน้ำ ยกระดับทุกการไดฟ์ให้ปลอดภัยและสะดวกสบายยิ่งขึ้น เหมือนเป็นบัดดี้คู่ใจนักดำน้ำที่รักสุขภาพด้วยโหมดกีฬาอื่นๆ อีกมากมาย และฟีเจอร์ติดตามสุขภาพครบจบในเรือนเดียว
Swatch Big Bold Chrono Extravehicular
คอลเลคชั่นที่ได้แรงบันดาลใจมาจากจักรวาลและดวงดาว ถือเป็นการร่วมฉลองให้กับ NASA และ SWATCH มีนวัตกรรมวัสดุ BIOCERAMIC นาฬิกาที่ผลิตมาจากเซรามิก 2/3 ส่วน และพลาสติกชีวภาพอีก 1/3 ส่วน ให้สัมผัสนุ่มสบายเมื่อสวมใส่ โดยนาฬิกา 3 เรือนจาก 5 เรือนในคอลเลคชั่นนี้ มีส่วนประกอบที่ผลิตมาจากวัสดุสังเคราะห์จากธรรมชาติบวกกับดีไซน์ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากชุดอวกาศที่นักบินอวกาศของ NASA สวมใส่นั่นเอง เรือนที่เป็นไฮไลท์เห็นจะเป็น นาฬิกาข้อมือสีขาวสะดุดตา BIG BOLD CHRONO EXTRAVEHICULAR ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากชุดอวกาศสีขาวที่ใช้สวมใส่สำหรับการทำภารกิจนอกตัวยาน เป็นสัญลักษณ์ที่ทุกคนคุ้นตาเป็นอย่างดีชุดอวกาศสีขาวนี้ถูกสวมใส่ครั้งแรกในปี 1983 โดยนักบินอวกาศของ NASA, Story Musgrave และ Donald Peterson สีขาวของชุดทำให้มองเห็นได้ชัดเมื่ออยู่ในอวกาศ ช่วยสะท้อนแสง และไม่ดูดซึมความร้อนจากดวงอาทิตย์มากเกินไป ซึ่งเป็นการปกป้องพวกเขาจากรังสีของดวงอาทิตย์นั้นเอง ดีไซน์สุดพิเศษกับไฮไลท์สีแดง สำหรับการนับถอยหลังช่วง 10 วินาทีสุดท้าย ขอบหน้าปัดเรืองแสง และถือเป็นรุ่นเดียวใน Space Collection ที่มีหน้าต่างวันที่ อยู่ที่ตำแหน่ง 4 นาฬิกา
Mido Ocean Star 200 Red Bull Cliff Diving
นาฬิการุ่นพิเศษสำหรับการแข่งขันกระโดดหน้าผาระดับโลก ซึ่งเป็นการแข่งขันกระโดดหน้าผาจากแท่นโดดความสูง 27 เมตร ถูกจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 2009 ซึ่งจะหมุนเวียนจัดการแข่งขันไปตามสนามแข่งทั่วโลก โดย Mido เป็นผู้ให้การสนับสนุนการแข่งขันทั่วโลกอย่างเป็นทางการ นาฬิการุ่นพิเศษนี้ ตัวเรือน Stainless Steel ขนาด 42.5 มิลลิเมตร ขอบ Bezel พร้อม Insert Aluminum สีน้ำเงิน หน้าปัดสีน้ำเงินขัดแต่งลวดลาย Satin หลักชั่วโมงและชุดเข็มเคลือบสารเรืองแสง Super Luminova ปลายเข็มวินาทีสีส้ม มีหน้าต่างวัน-วันที่ตรงตำแหน่ง 3 นาฬิกา ใช้กระจก Sapphire ฝาหลังแบบปิดทึบยึดด้วยสกรู 5 ตัว กันน้ำลึก 200 เมตร สลักโลโก้การแข่งขัน Red Bull Cliff Diving World Series และหมายเลขประจำเรือน XXX/500 ภายในขับเคลื่อนด้วยกลไก Automatic Cal.80 (Base ETA C07.621) ความถี่ 21,600 ครั้ง/ชั่วโมง สำรองพลังงาน 80 ชั่วโมง มาพร้อมสายผ้าสีน้ำเงินเย็บด้ายสีส้มกับ Folding Buckle Steel ขัดลวดลาย Satin เรียกได้ว่าดีไซน์สวย ฟังก์ชั่นพร้อมเป็นนาฬิกาสปอร์ตสายลุยจริงๆ
