ลุ้นไม่ติดเก้าอี้กับ หนัง Emergency Declaration ไฟลต์คลั่ง ฝ่านรกชีวะ

สรุปให้รีวิว Emergency Declaration
       อ้ะหื้มมม บอกเลยว่า มัน  เหนื่อย  มว๊ากก
ออกจากโรง ขายังสั่ง ประหนึ่งเหมือนเพิ่งแลนด์ดิ้ง
ลุ้นไม่ติดเก้าอี้  ตั้งแต่ขึ้นเครื่อง ยันลง จังหวะดราม่าซีนอารมณ์ ก็บีบคั้นหัวใจได้ดีมากๆ กับไฟลท์มรณะ ที่ take off ได้ แต่ไร้รันเวย์ให้ลงจอด!!
"ทำไมประเทศเกาหลี ถึงทำหนังออกมาคุณภาพล้นจอขนาดนี้ แทบทุกเรื่อง" เดี๋ยวโอ๋รีวิวให้ฟัง

       คือโอ๋จะบอกเสมอว่า อย่าประมาทกับหนังเกาหลี เป็นชาติที่ทำหนังดราม่า ได้เก่งมากๆ ถ้าคุณโดน Train to Busan (2016) ตกอย่างแรง ประทับใจใน Parasite (2019) ที่ตีแผ่ความเหลื่อมล้ำสังคมเกาหลี คราวนี้ Emergency Declaration (2022) โอ๋ก็ไม่อยากให้ทุกคนพลาด

       ทั้งฝีมือจากนักแสดงคุณภาพ  ซงคังโฮ (Parasite, Broker) และ อีบยองฮอน (G.I.Joe) พร้อมด้วย ผู้กำกับมากฝีมือ ฮัน แจริม ที่เคยฝากผลงานเลืองชื่อ The King กลับมาสานต่อโปรเจคเก่าที่เคยคิดไว้เมื่อครั้งยังไม่มีโควิด ตอนนั้นก็กลัวโลกไม่เข้าใจคำว่า โรคระบาด และ เทคนิคยังไม่พร้อม แต่แน่นอนว่ามันไม่ใช่กับตอนนี้

เรื่องย่อ Emergency Declaration
ไฟลต์คลั่ง ฝ่านรกชีวะ
       บนไฟลท์บินมรณะ เมื่อหนึ่งในผู้โดยสาร เสียชีวิตอย่างปริศนา บนเครื่อง ทำให้ทั้งลำตกอกตกใจ
พร้อมๆกับท่าทีประหลาดจากชายหนุ่ม ที่อาจจะเป็น ต้นตอ ของเรื่องราวสุดโกลาหล  จนเป็นเหตุให้กัปตัน ต้องประกาศเหตุฉุกเฉินและขอลงจอดทันที! แต่ทว่าหายนะจากบนเครื่อง สร้างความตระหนกไปทั่วโลก
จนรัฐบาลมีคำสั่งชี้ตาย “เครื่องบินลำนี้ ไม่ได้รับอนุญาตให้ลงจอดที่ใดทั้งนั้น”

       นอกจากน้ำมันที่น้อยลง  150 ชีวิต ต้องเผชิญ อะไรอยู่บนเครื่องบิน? 
ไวรัส ซอมบี้ หรือ Hi jack (โจรกรรมบนน่านฟ้า)??
ไปหาคำตอบเอาเอง ใน Emergency Declaration ไฟลต์คลั่ง ฝ่านรกชีวะ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• ไฟลต์คลั่ง ฝ่านรกชีวะ แอ็กชั่นหายนะ เที่ยวบินวิปโยค ที่โลกไม่อยากให้ลงจอด
• รีวิว บุพเพสันนิวาส2 ภาคแยกของรอมคอมพีเรียดสุดปังแห่งยุคอิงประวัติศาสตร์
• ชวนดู Leio ไลโอโคตรแย้ยักษ์ สัตว์ประหลาดพันธุ์ไทย ใช้ CG สมจริงสุดแห่งยุค

รีวิวความรู้สึกหลังดูจบ ...
Emergency Declaration ไฟลต์คลั่ง ฝ่านรกชีวะ
สนุกมาก ชอบมากกก ให้ 10/ 10 คือ ลุ้นตามตั้งแต่ต้นจนเหนื่อย ออกจากโรงมาขาสั่นอยู่เลย ให้คะแนนความลุ้นระทึกดีมาก

       ส่วนตัวชอบมุมกล้อง กับการถ่ายทำมาก ถ่ายออกมาดีมาก สมจริง สมแล้วที่ทีมเขา ทุ่มทุนสร้างมากกว่า Train to Busan 3 เท่า ซื้อเครื่องบินโบอิ้ง 777 มาผ่า แล้วติด กิมบอลยักษ์ เข้าไป ทำให้ถ่ายออกมา แต่ละฉากดิ่งในเครื่อง คือ สมจริง หมุนได้รอบหัว ไม่เสียว ให้มันรู้ไปอ่ะ แนะนำให้ดู 4DX คุ้มแน่ เหมือนอยู่ในเครื่องจริงๆเลย
       นอกจากดูสนุก ลุ้นระทึก ลุ้นแล้ว ลุ้นอีกตลอดเรื่อง คือ ไม่ได้มี conflict แค่จุดเดียวให้แก้ ผ่านเรื่องนี้ เรื่องนี้ก็มาต่อ แทบไม่ได้หยุดลุ้น
       ซีนดราม่า เสมือนจุดให้พักท้องจากการลุ้น ก็ทำออกมาได้ดี บีบคั้นอารมณ์ แม้ว่าอาจจะไม่ใช่ทุกคนที่ตัดสินใจแบบนั้น แต่การที่ เราทุกคน เคยอยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับตัวละครมา ไม่มากก็น้อย (การขึ้นเครื่องบิน โควิด19 ) ทำให้เราทุกคน อินตามได้ไม่ยาก
       และฝีมือนักแสดงแต่ละคน สมบทบาทจริงๆ
''  แต่สุดท้าย หนังจะสนุกหรือไม่สนุก ขึ้นอยู่กับ Taste ของแต่ละคน...''  ไม่ต้องเชื่อโอ๋ แต่อยากให้ไปพิสูจน์เอง 4 ส.ค. ทุกโรงภาพยนตร์เครือ Major Cineplex

สมัครที่ Line Official Majorgroup”