พารู้จักแพลตฟอร์ม ‘Nestify’ Fintech ให้บริการเกี่ยวกับการกู้ยืมเงินระหว่างบุคคล เจ้าแรกในไทย โดย Aqua และ News เพื่อแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ หรือ การขอกู้แล้วถูกปฏิเสธจากสถาบันการเงิน น่าเชื่อถือเพราะเก็บข้อมูลสองฝ่ายบน Blockchain รายละเอียดเป็นยังไง เดี๋ยวโอ๋สรุปให้ฟัง
Fintech คืออะไรก่อน?
เกิดจากการรวม 2 คำ Financial กับ Technology คือ เทคโนโลยีทางด้านการเงิน ที่ช่วยให้ชีวิตคนใช้จ่ายเงินสะดวกขึ้น มีทั้งเรื่องการชำระเงินและโอนเงิน การกู้ยืมเงิน การลงทุน หรือ ผลิตซอร์ฟแวร์ทางด้านการเงิน บริษัท Fintech คือ ธุรกิจที่ใช้เทคโนโลยี เข้ามาเกี่ยวข้องกับการเงินนั่นเอง
Fintech สำคัญอย่างไร?
ปัจจุบัน Fintech ถือเป็น Mega trend เทรนด์ที่คนทั่วโลกให้ความสนใจและเห็นแนวโน้มการเติบโต ยิ่งในยุคโควิด สังคมไร้เงินสด ยิ่งทำให้ตลาด Fintech start up มีการพัฒนาและเติบโตมากขึ้น
ส่วนในไทยเข้ามาแรกๆก็คือ ธนาคาร และ สถาบันการเงิน เพราะมีการแข่งขันกันสูง และ เทคโนฯหลายตัวก็เข้ามาเปลี่ยนวิถีชีวิตคนไทย ให้ทำธุรกรรมการเงินได้สะดวกขึ้น เช่น จ่ายผ่าน QRcode การรับโอนผ่านแอป เป๋าตัง ธุรกิจไหนที่ไม่ปรับตัว ก็อาจไปไม่รอด ไม่เว้นแม้กระทั่งช่วยอำนวยความสะดวกเรื่อง การกู้ยืมเงิน
เพราะปัจจุบันเศรษฐกิจที่แสนฝืด การกู้ยืมเงิน คือเรื่องยาก คนกู้ต้องประวัติเครดิตบูโรสวย หรือ มีหลักทรัพย์ค้ำ การงานมั่นคง จึงทำให้หลายคน กู้ผ่านยาก ตัดสินใจกู้หนี้นอกระบบ ครั้นจะไปกู้ยืมกับคนรู้จักก็ยาก แต่ปัญหาเหล่านี้อาจจะดีขึ้น เมื่อมี ‘Nestifly’
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
P2P Lending แพลตฟอร์มการลงทุนและให้ "กู้ - ยืม" เจ้าแรกในไทย ไม่ต้องผ่านแบงก์ โดย AQUA และ NEWS
Nestifly คืออะไร
Nestifly คือ แพลตฟอร์ม ให้บริการกู้ยืมเงินระหว่างบุคคลกับบุคคล หรือที่เรียกว่า Peer-to-Peer Lending จัดว่าเป็น Fintech โดยการร่วมมือระหว่าง “AQUA” และ “NEWS” ภายใต้บริษัท เพียร์ ฟอร์ ออล จำกัด
คิดออกมาเพื่อแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ หรือ การขอกู้แล้วถูกปฏิเสธ เจ้าแรกของประเทศไทย ที่จะเข้ามาทดแทนการกู้ยืม ผ่านธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินในอนาคต
Nestifly ให้บริการยังไง ?
จะจับคู่ระหว่าง ผู้กู้ และ ผู้ปล่อยกู้ มาเจอกันโดยตรง แต่มีหลักฐาน และมีความน่าเชื่อถือ เพราะเป็นแพลตฟอร์ม ผ่านการรับรองจากธนาคารแห่งประเทศไทยแล้ว
ข้อดีของ Nestifly
- ลดปัญหาคนที่ถูกธนาคาร หรือ สถาบันการเงินปฏิเสธเมื่อขอสินเชื่อ เพราะประวัติเครดิตบูโรอาจดีไม่พอ หรือ ไม่มีสินทรัพย์ค้ำประกัน
- ลดปัญหา การกู้หนี้นอกระบบ
- น่าเชื่อถือเพราะมีหลักฐานการกู้ยืม Runบนระบบ Blockchain เก็บหลักฐานรายละเอียดของผู้กู้และผู้ให้กู้หมด
- เป็นการลงทุนระยะยาวได้ เพราะผู้ให้กู้ จะได้รับผลตอบแทนในรูปของดอกเบี้ยแบ่งกันระหว่างแพลตฟอร์ม กับ ผู้ให้กู้
วิธีการกู้ยืม หรือ ปล่อยกู้ Nestifly ในเฟสแรก
- ผู้กู้ ไม่จำเป็นต้องมีสินทรัพย์ค้ำประกัน เช่น บ้าน รถ โฉนดที่ดิน ใดๆ
แค่เพียงใช้หุ้นในตลาดหลักทรัพย์ของไทยมาค้ำได้เลยผู้ให้กู้ก็ได้ดอกเบี้ยตอบแทน
สรุปสุดท้าย Nestifly ถือเป็น โมเดลธุรกิจใหม่ในไทย ที่ยังไม่เคยเกิดขึ้น คาดว่าพร้อมให้บริการ ก่อนปลายปีนี้ คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตทางธุรกิจสูง ถือเป็น ก้าวสำคัญในการร่วมมือกันพัฒนา Fintech ของไทย เพื่อให้คนไทย มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นด้วยเทคโนโลยี