ชาวบ้านเฮหลังจากนี้พก กระท่อม เคี้ยวทานได้แบบไม่ต้องกลัวถูกจับแล้ว หลัง 24 ส.ค. 64 พืช "กระท่อม" ถูกปลดล็อกออกจากบัญชียาเสพติดเรียบร้อย เตรียมถูกผลักดันเป็น พืชเศรษฐกิจตัวใหม่ ประชาชนสามารถ ซื้อ ขาย เคี้ยว ปลูก ได้อย่างเสรี แต่ว่ามันมีประโยชน์อย่างไรบ้าง?
ปลดล็อก พืชกระท่อม เคี้ยว-ขายได้อย่างเสรี
วันนี้ชาวบ้านหลายคนเฮพก กระท่อม เคี้ยวทานได้แบบไม่ต้องกลัวถูกจับแล้ว หลัง 00.00 น. 24 ส.ค.64 พืช "กระท่อม" ถูกปลดล็อกออกจาก ยาเสพติดให้โทษประเภท 5 เป็นที่เรียบร้อย ประชาชนสามารถ ซื้อ ขาย เคี้ยว ปลูก ได้อย่างเสรี
แต่มีข้อจำกัดอยู่บ้าง
- หากจะทำผลิตภัณฑ์ ต้องไปขออนุญาต อ.ย.
- ห้ามนำไปผสมกับยาเสพติดชนิดอื่น ที่นิยมกันในวัยรุ่น เช่น 4X100 นำใบกระท่อมและยาแก้ไอที่มี โคเดอีนหรือ คาเฟอีน มาผสมกันเป็นยาเสพติด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ปลด กระท่อม ออกจากยาเสพติดให้โทษ 24.ส.ค. คาด ปล่อยผู้กระทำผิดทันที 1,038 คน
ประโยชน์ พืชกระท่อม
ข้อมูลจากสำนักกฏหมาย สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา และ คณะเภสัชศาสตร์ ม.สงขลานครินทร์ ระบุว่า พืชกระท่อม ปลูกเยอะในภาคใต้ เป็นสมุนไพรไทยโบราณใช้มายาวนานเพราะมีสรรพคุณทางยา
โดยชาวบ้านนิยมนำใบสดมาเคี้ยว หรือต้มกิน เพื่อช่วยให้ตื่นตัว ไม่เมื่อย ไม่เหนื่อย มีแรงทำงาน ทนแดด
- กระปรี้กระเปร่า เป็นสุข ทนแดด มีแรง ไม่เมื่อย ไม่หิว
- มีสารไมทราไจนีน ที่ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท ระงับอาการปวด เช่น มอร์ฟีน แต่อ่อนกว่า
- ในต่างประเทศพบว่า ใช้เป็นยารักษาโรคเรื้อรัง เช่น ความดันโลหิต เบาหวาน แก้ไอ และเริ่มศึกษาช่วยลดอาการซึมเศร้า และโรควิตกกังวล
ข้อควรระวัง
- ใช้ระยะยาวส่งผลต่อจิตใจและระบบประสาท
กระวนกระวาย และ เซื่องซึม เห็นภาพหลอน
- กลัวหนาวสั่น เวลาครึ้มฟ้า ครึ้มฝน
- ผอม ท้องผูก
- คลื่นไส้ อาเจียน
- นอนไม่หลับ
- ไตเสียหาย
- ผู้ที่เป็นโรคหัวใจและสตรีมีครรภ์ไม่ควรทาน
เตรียมผลักดันเป็น พืชเศรษฐกิจใหม่
รมว.ยุติธรรม เตรียมผลักดัน ให้ กระท่อม เป็น พืชเศรษฐกิจ ใหม่ สู้ตลาดอาเซียน อย่างมาเลเซีย และ อินโดฯ กก.ละ 200 บาท เริ่มที่แรก น้ำพุโมเดล สุราษฎร์ธานี หลังจากนี้คงต้องดูว่า จะมีการศึกษาและวิจัย ดึงเอาประโยชน์จาก พืชกระท่อมไปต่อยอดเพิ่มมูลค่าในผลิตภัณฑ์ต่างๆของไทยได้อย่างไรอีกบ้าง
สุดท้ายแม้ว่า พืชกระท่อม จะเป็นสมุนไพรไทยที่มีมาช้านาน และชาวบ้านโดยเฉพาะในภาคใต้คุ้นเคยกันดี แต่การใช้พืชกระท่อมอย่างปลอดภัย แนะนำว่าควรต้องได้รับคำแนะนำจากแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ เนื่องจากต้องใช้ในปริมาณ และ ระยะเวลาที่เหมาะสม เพราะมีผลข้างเคียงที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้