จากสถานการณ์ "น้ำปิง" ไหลล้นพนังกันน้ำ ทำให้น้ำท่วมย่านเศรษฐกิจสำคัญที่ถนนช้างคลาน กาดเมืองใหม่ พื้นที่ชุมชน รวมถึงโรงเรียนที่ต้องสั่งปิดชั่วคราว น้ำท่วมเชียงใหม่ฉับพลันในครั้งนี้ หลายคนกังวลว่าจะกระทบกรุงเทพฯ และพื้นที่อื่นหรือไม่ อย่างไร?
อ.สนธิ คชวัฒน์ นักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมได้กล่าวถึงสถานการณ์น้ำว่า "ตอนนี้น้ำในเขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท มีการระบายน้ำมาค่อนข้างสูงถึง 3,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หากเกิน 3,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที อาจส่งผลกระทบให้จังหวัดอยุธยาน้ำท่วมหนัก
ปริมาณน้ำที่ลงมาจากจังหวัดชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง อยุธยา เมื่อมาถึงอยุธยาซึ่งมีปริมาณน้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เต็ม ไหลมาที่อำเภอท่าเรือ ซึ่งตอนนี้อำเภอท่าเรือน้ำท่วม น้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาไหลมาเจอกับแม่น้ำป่าสักที่หน้าวัดพนัญเชิงลงไปที่บางไทร ทำให้ตอนนี้สถานีวัดน้ำบางไทร มีปริมาณน้ำที่เยอะมากแล้ว หากมากกว่านี้อาจส่งผลกระทบกับพื้นที่อื่นได้"
เนื้อหาที่น่าสนใจ :
คนเกือบ 1 ใน 4 ของโลก เสี่ยงที่จะเจอกับน้ำท่วม ส่วนใหญ่อยู่ในประเทศยากจน
กองอำนวยการน้ำ เตือนเฝ้าระวังระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่ 1 ต.ค.
"ตอนนี้กรมชลประทานเตรียมแก้มลิงให้ว่างไว้ก่อน ต้องเผื่อไว้เพราะจะมีน้ำมาจากภาคเหนืออีกมหาศาล เนื่องจากฝนตกภาคเหนือ วันนี้น้ำท่วมเชียงใหม่ไหลลงสู่เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนภูมิพลทั้งหมด แต่ก็ต้องปล่อยลงมาผ่านเขื่อนเจ้าพระยา เราต้องเผื่อไว้ หวั่นน้ำท่วมกรุงเทพฯ"
อ.สนธิ คชวัฒน์ ได้กล่าวเพิ่มอีกว่า "ถ้าถามว่าน้ำจะท่วมเหมือนปี 2554 มั้ย? มันก็อาจจะไม่ท่วมขนาดนั้น เพราะไม่ได้มีการปล่อยน้ำลงมามาก แต่ว่าอัตราการไหลของน้ำที่ตกใต้เขื่อนมันเยอะ เราควรระวังเรื่องระดับน้ำไว้ หากปล่อยน้ำในระดับ 3,000-3,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีเมื่อไรก็อาจทำให้ระดับน้ำขึ้นไปอีก 50 เซ็นติเมตร"
"เมื่อน้ำท่วมหมดมันก็จะไหลมาที่ปทุมธานี นนทบุรี กรุงเทพฯ สมุทรปราการ เพื่อเปป็นการป้องกันไม่ให้น้ำท่วมกรุงเทพฯ ก็ต้องปล่อยไปทางภาคตะวันออก ผ่านไปรังสิต มีนบุรี คลองสามวา ลาดกระบัง ซึ่งจะไปออกทางสมุทรปราการและออกอ่าวไทย"