สหรัฐฯ ยังคงเดินหน้ากดดันรัฐบาลเมียนมา ให้ปล่อยตัว 2 นักข่าวรอยเตอร์ส ล่าสุด ทูตพิเศษสหรัฐฯ ได้ออกมาเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวนักข่าวทั้งคู่
นายแซม บราวน์แบค เอกอัครราชทูตพิเศษของสหรัฐฯ เรียกร้องให้รัฐบาลเมียนมาปล่อยตัว นายว้า โลน และนายเขียว โซ อู หรือ 2 นักข่าวรอยเตอร์สชาวเมียนมา ที่รายงานข่าวกรณีความรุนแรงในรัฐยะไข่ ระหว่างทหารเมียนมาและกลุ่มติดอาวุธชาวมุสลิมโรฮิงญาในรัฐยะไข่ โดยระบุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเมียนมา เป็นวิกฤตด้านมนุษยธรรมที่กองทัพเมียนมาเป็นผู้สร้างขึ้น ซึ่งอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศนายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน ระบุว่าเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
นอกจากนี้ นายบราวน์ แบค ยังชื่นชมสื่อมวลชนทั้งหมด ที่ตั้งใจรายงานข่าวและตีแผ่ความจริงเกี่ยวกับวิกฤตความรุนแรงในรัฐยะไข่ ที่เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว พร้อมย้ำว่า นักข่าวควรได้รับสิทธิ์รายงานข่าวในเมียนมาได้อย่างเป็นอิสระ ทั้งนี้ นายบราวน์แบค เป็นหนึ่งในตัวแทนพิเศษจากสหรัฐฯ ที่ได้เข้าไปสำรวจกลุ่มผู้อพยพชาวโรฮิงญา ในค่ายผู้อพยพเมืองค็อกซ์บาซาร์ ประเทศบังกลาเทศ
นายว้า โลน และนายเขียว โซ อู รายงานข่าวเกี่ยวกับวิกฤตผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญามาโดยตลอด จนกระทั่งเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม ปีที่แล้ว ทั้งสองถูกทางการเมียนมาจับกุมในข้อหาได้รับข้อมูลมาโดยมิชอบ และมีเจตนาแบ่งปันข้อมูลที่เป็นความลับเกี่ยวกับชาวโรฮิงญาให้แก่สื่อต่างชาติ ซึ่งถือว่าละเมิดพระราชบัญญัติว่าด้วยการเป็นสายลับ และมีโทษจำคุกสูงสุด 14 ปี
ขณะที่กองทัพเมียนมาเชื่อว่า 2 นักข่าวมีหลักฐานสำคัญชี้ชัดว่ากองทัพเมียนมาลงมือสังหารหมู่ชาวมุสลิมโรฮิงญา 10 ราย เมื่อวันที่ 2 กันยายน ปีที่แล้วในหมู่บ้านอินดิน ห่างจากเมืองสิตตะเวในรัฐยะไข่ ไปทางเหนือราว 50 กิโลเมตร ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่า รายงานดังกล่าวเป็นเหตุผลเบื้องหลังการจับกุมนายว้า โลน และนายเขียว โซ อู