ทนายโบว์ นำทีมยืนร้องเพลงชาติแห่งความเงียบ หน้าพารากอน

เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 1 ก.พ. ที่ลานสยามพารากอน น.ส.ณัฏฐา มหัทธนาหรือ ทนายโบว์ และ นายโชคชัย ไพบูลย์รัชตะ ร่วมกันจัดกิจกรรม ”ยืนร้องเพลงชาติแห่งความเงียบ” โดยใช้ผ้ามาปิดปากซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อประณามและเรียกร้องการหยุดตั้งข้อหาปิดปากประชาชน โดยมีประชาชนข้าร่วมกิจกรรมเพียงจำนวนหนึ่ง

น.ส.ณัฏฐา กล่าวว่า ในวันนี้ตนเดินทางมาจัดกิจกรรมเนื่องจากกลุ่มผู้ที่มาจัดกิจกรรมบนสกายวอล์ค สี่แยกปทุมวัน ในวันที่ 27 ม.ค. ที่ผ่านมา ถูกตั้งข้อหาว่าผิด พรบ.การชุมนุมในที่สาธารณะ ซึ่งคนที่เข้าร่วมกิจกรรมถูกตั้งข้อหา 39 ราย รวมทั้งแกนนำ 7 ราย ซึ่งตนคิดว่าเป็นหนึ่งในความพยายามของทางคสช. ที่ต้องการปิดปากประชาชน ซึ่งต่างจากในวันนี้มีม็อบเดินทางไปให้กำลังใจพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่กระทรวงกลาโหม โดยไม่ถูกตั้งข้อหาแม้แต่อย่างใด อีกทั้งจุดประสงค์ของทาง คสช. อยากจะใช้ข้อหาเพื่อปิดปากประชาชน แต่แท้จริงแล้วถ้าสังคมเราตั้งอยู่บนความรู้ ของความจริง ทุกคนจะรู้ว่าการชุมนุมที่ไม่ผิดความมุ่งหมายของรัฐธรรมนูญซึ่งไม่ได้ชุมนุมเพื่อก่อให้เกิดความเสียหายแก่ชาติบ้านเมือง หรือทำให้เกิดความเดือดร้อนแก่สังคม เป็นสิ่งที่ถูกต้อง และได้รับการรับรองอีกด้วย

น.ส.ณัฏฐา กล่าวต่อว่า ดังนั้นกิจกรรม “ยืนร้องเพลงชาติแห่งความเงียบ” ตนอยากแสดงให้เห็นถึงการสะท้อนในเมื่อต้องการความเงียบ ซึ่งความเงียบเท่ากับความสงบจริง หรือไม่ แต่ที่แน่ๆคนไทยถูกปิดปากเงียบมานานกว่า 4 ปีแล้ว ทั้งนี้ผู้ที่ถูกตั้งข้อหาตนคิดว่าทุกคนมีความเป็นกังวล ซึ่งเมื่อวานที่ผ่านมาตนเห็นในโลกโซเชี่ยลมีความเข้าใจผิดเยอะมาก ซึ่งที่จริงแล้วทั้ง 39 ราย ถูกแจ้งข้อหาที่ต่างออกไปจากแกนนำทั้ง 7 ราย ซึ่งแกนนำถูกดำเนินคดีในข้อหาความมั่นคง ส่วนที่เหลือผิดพรบ.การชุมนุมในที่สาธารณะ ซึ่งมีโทษเพียงแค่จำคุก 6 เดือน ปรับ 10,000 บาท

“ขอยืนยันว่า ตนไม่ใช่แกนนำเพียงแค่เป็นผู้เข้าร่วมในการจัดกิจกรรมเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย ซึ่งในวันที่ 10 ก.พ. ที่ถนนราชดำเนิน ทางกลุ่มแกนนำจะไปจัดกิจกรรมเพื่อเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งในปี 61 รวมทั้งให้หยุดอำนาจคสช. คอร์รัปชั่น และเรื่องสิทธิมนุษยชน อาจใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง ซึ่งเป็นการชุมนุมโดยสงบ” น.ส.ณัฏฐา กล่าว

รายงานข่าวแจ้งว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ปทุมวัน ทั้งในและนอกเครื่องแบบคอยกระจายกำลังตามจุดต่างๆ เพื่อป้องกันเหตุอันตรายจากผู้ไม่หวังดี ซึ่งระหว่างที่น.ส.ณัฏฐา กำลังจะจัดกิจกรรมนั้นทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของห้างสรรพสินค้าได้เข้ามาห้ามปราบเพื่อไม่ให้จัดกิจกรรมบริเวณหน้าประตูทางเข้า-ออก โดยน.ส.ณัฏฐา ได้เดินเลี่ยงมาอยู่ที่ด้านข้างก่อนใช้ผ้าปิดปากยืนนิ่งพร้อมทั้งแสดงสัญลักษณ์มือเป็นระยะเวลาประมาณ 30 นาที ก่อนแยกย้ายเดินทางกลับ โดยไม่เกิดเหตุการณ์รุนแรงแม้แต่อย่างใด