ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th
ครม.เห็นชอบภาษีความหวาน มอบหมายกระทรวงการคลังชี้แจงรายละเอียดในอีก 2 วัน
การประชุมคณะรัฐมนตรี สัญจร วันนี้ (22 ส.ค.) มีการพิจารณากฎหมายลูกของ พ.ร.บ.สรรพสามิต ซึ่งเป็นการกำหนดรายละเอียดของภาษีสรรพสามิตประเภทต่างๆ ตามกฎหมายสรรพสามิตฉบับใหม่ ที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 16 ก.ย.นี้
[caption id="attachment_85335" align="aligncenter" width="715"] นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี[/caption]
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า ครม.มีมติที่เกี่ยวข้องกับภาษีสรรพสามิต แต่กำหนดให้กระทรวงการคลังเป็นผู้แถลงรายละเอียดในอีก 2 วันข้างหน้า (24 ส.ค.) ซึ่งจะเป็นการปรับเกณฑ์การเสียภาษีสินค้าทุกชนิดที่ต้องเสียภาษีสรรพสามิต
และมีรายงานจากที่ประชุม ครม.ว่า การพิจารณาครั้งนี้ครอบคลุมภาษีสรรพสามิตเครื่องดื่ม ซึ่งรวมถึงการจัดเก็บภาษีเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลในปริมาณสูง หรือ ภาษีความหวาน
ก่อนหน้านี้ นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต ระบุว่า การเก็บภาษีจากค่าความหวานเป็นภาษีใหม่ โดยถ้าน้ำอัดลม น้ำผลไม้ เครื่องดื่มชูกำลัง และชาเขียว มีค่าความหวานหรือน้ำตาลมากกว่ากำหนด จะเสียภาษีเพิ่ม จากปัจจุบันที่เสียภาษีสรรพสามิต 20% จากมูลค่าอยู่แล้ว
สำหรับ ภาษีที่เก็บตามค่าความหวาน แบ่งเป็น 6 ระดับ คือ 1.ค่าความหวาน 0-6 กรัมต่อ 100 มิลลิลิตร ไม่เสียภาษี ค่าความหวาน 6-8 กรัมต่อ 100 มิลลิลิตร เสียภาษี 10 สตางค์ต่อลิตร ค่าความหวาน 8-10 กรัมต่อ 100 มิลลิลิตร เสียภาษี 30 สตางค์ต่อลิตร
ค่าความหวาน 10-14 กรัมต่อ 100 มิลลิลิตร เสียภาษี 50 สตางค์ต่อลิตร ค่าความหวาน 14-18 กรัมต่อ 100 มิลลิลิตร เสียภาษี 1 บาทต่อลิตร และค่าความหวาน 18 กรัมต่อ 100 มิลลิลิตร ขึ้นไป เสียภาษี 1 บาทต่อลิตร