นาย อาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรีได้ออกมาอธิบายกรณีมีผู้ "บริภาษความเชื่อคนต่างศาสนิก" เผยแพร่โดย ทีวีสำนักจุฬาฯ วันที่ 3 เม.ย.61 ย้ำ "อิสลาม" ห้ามไม่ให้ บริภาษหรือวิจารณ์ศาสนาอื่น รวมถึงย้ำให้เผยแผ่ด้วยวิทยปัญญา และด้วยบทเรียนคำสอนอันดีงาม ป้องกันความขัดแย้ง
โดย นาย อาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรีคนปัจจุบัน ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านทางทีวีสำนักจุฬาฯ ว่า “เนื่องจากว่ามีผู้ที่ตั้งตัวเป็นผู้รู้ศาสนา วิพากษ์ หรือ บริภาษ ศาสนาอื่น ความจริงแล้ว “อิสลาม ห้ามทำการวิจารณ์ ศาสนาอื่นหรือคนนับถือศาสนาอื่น”
“อยากจะขอเตือนผู้รู้ หรือผู้ที่ทำตัวเป็นผู้รู้ศาสนา นักบรรยาย นักเผยแพร่นั้น ระมัดระวังในสิ่งเหล่านี้ อาจจะนำไปสู่ความขัดแย้งทางสังคม ที่สำคัญคือมันขัดกับคำสอน ในอัล-กุรอาน ที่สั่งห้าม บริภาษ ศาสนาอื่น”
“การเผยแผ่อิสลามในประเทศไทยนั้น ต้องทำด้วยความระมัดระวัง และความเคารพ และให้เกียรติคนอื่น เพราะฉะนั้นจึงขอทำความเข้าใจกับพี่น้องทั่วไปว่า สิ่งที่เกิดขึ้น และสิ่งที่บางคนทำไปนั้น ไม่ใช่เป็นหลักคำสอนของอิสลาม แต่เป็นหลักปฏิบัติที่ฝ่าฝืนคำสอนของอิสลาม”
“เพราะฉะนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้ ขอฝากเตือนนักวิชาการ ที่ปลุกปั่นตามสื่อต่างๆในขณะนี้ ให้ระมัดระวัง ควรปฏิบัติและประพฤติตนให้เป็นไปตามหลักคำสอนของ กุรอาน เพราะคำพูดของท่านไม่กี่ประโยคนั้นอาจจะนำไปสู่ความสูญเสียกับอิสลามและมุสลิมในประเทศไทย จะนำไปสู่ความแตกแยก
“อิสลาม ห้ามไม่ให้ บริภาษ หรือ วิจารณ์ ศาสนาอื่น”
“ในอิสลาม อัล-กุรอานก็บอกอยู่แล้ว ก็สอนอยู่แล้วว่า สูเจ้าจงเรียกร้องไปสู่ศาสนาของอัลเลาะฮ์ ด้วยวิทยปัญญา และด้วยบทเรียนคำสอนอันดีงาม การเผยแผ่ อิสลามในสังคมพหุวัฒนธรรมแบบสังคมไทยนั้น จะต้องมีความรอบคอบ มีความสุขุม และมีความเคารพต่อคนอื่น และ ศาสนาอื่น
“คิดว่าคงจะเป็นข้อเสนอและคำแนะนำ คำเตือน คงจะเป็นประโยชน์แก่ท่านทั้งหลาย หรือนักพูดนักบรรยาย ทั้งหลายจะได้เก็บไปคิด และเดินเข้าสู่แนวทางที่อิสลามสอน คือต้องเชิญชวนด้วยวิทยปัญญา และด้วยบทเรียนคำสอนอันดีงาม ไม่ใช้ไปบริภาษ ไม่ใช่ไปกล่าวร้าย อันจะนำไปสู่การตตอบโต้ที่จะมาสู่อิสลาม ที่อาจจะนำไปสู่ความแตกแยก อย่างไหญ่หลวงทางสังคม จึงขอให้ตระหนักถึงความสำคัญ ความร้ายแรงของเรื่องนี้ด้วย ขอฝากเตือนครับ”
ขอบคุณภาพ: youtube/Chanwit Mardsoh