แกะรอยขบวนการหลอกลวง ลงทุนร่วมธุรกิจสกุลเงินดิจิตอล ล่อลวงเจ้าพ่อบิทคอยน์ ชาวฟินแลนด์ หลงกลสูญเงินเกือบ 800 ล้านบาท พร้อมโยงบริษัทบิทคอยน์ชื่อดัง
เป็นคดีที่ได้รับความสนใจอย่างมากในเวลานี้ สำหรับกรณี ตำรวจกองปราบปราม บุกเข้าจับกุมตัว นายจิรัชพิสิษฐ์ จารวิจิต หรือบูม ดารานักแสดง ตามหมายจับศาลอาญา ในคดีฟอกเงิน หลังจากนักแสดงหนุ่มคนนี้ ร่วมกับพี่ชาย และพี่สาว คือ นายปริญญา จารวิจิต และนางสาวสุพิชฌา จารวิจิต วางแผนหลอกเอาทรัพย์ นายอาร์นี โอตาวา ซาริมา เศรษฐีชาวฟินแลนด์ ลงทุนเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิตอล จนสูญเงินกว่า 797 ล้านบาท
วันนี้ (12 ส.ค.61) ทีมข่าวสปริงนิวส์ จะพาไปแกะรอยถึงเบื้องหลังของคดีกัน เริ่มจากตัวผู้เสียหายชาวฟินแลนด์ ที่เป็นเจ้าพ่อบิทคอยน์ และมีภรรยาเป็นคนไทย เข้ามาร้องเรียนตำรวจกองปราบ เมื่อช่วงเดือนมกราคม 2561 ที่ผ่านมา โดยผู้เสียหาย ให้การว่า ช่วงเดือนมิถุนายน ปีเดียวกัน ได้รับการแนะนำจาก นายธนาคารคนหนึ่ง ให้รู้จักนายปริญญา พี่ชายของนักแสดงหนุ่ม และเจ้าพ่อตลาดหุ้นอีกคน ที่มีการชักชวนลงทุนธุรกิจซื้อขายสกุลเงินดิจิตอล ในชื่อดราก้อนคอยน์
ที่ผูกขาดกับธุรกิจคาสิโนในมาเก๊า ซึ่งบริษัทดราก้อน คอร์ปอเรชั่น ตั้งอยู่ที่ฮ่องกง มีนายจักรกฤช หรือ-คริส (ขอปิดนามสกุลไว้ก่อน) นั่งเป็นซีอีโอ และขั้นตอนจ่ายเงินดราก้อนคอยน์ จะมีบริษัทกลางรับจ่ายเงินให้ คือ บริษัท-ไว โฮลดิ้ง ที่นายปริญญา เป็นผู้บริหาร ร่วมกับนายจักรกฤช ที่มีการอ้างว่า การเสนอขายเหรียญในระยะเริ่มต้น หรือ ICO นั้น จะทำกำไรให้มหาศาล ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินเหรียญบิตคอยน์ มูลค่ากว่า 400 ล้านบาทไปให้ แต่สุดท้ายกลับถูกหลอก
อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้เสียหายรู้ตัวว่า อาจถูกหลอก ได้ขอความช่วยเหลือจากเจ้าพ่อตลาดหุ้นคนเดิม สุดท้ายเจ้าพ่อตลาดหุ้น ชักชวนให้ร่วมซื้อหุ้นบริษัท 3 แห่ง ประกอบด้วย บริษัทเอ็กซ์เปย์ ซอฟท์แวร์ , บริษัท เอ็นเอ็กซ์ เชน , และบริษัท ดีเอ็นเอ 2002 จำกัด รวมเป็นเงินเกือบ 400 ล้านบาท แต่กลับไม่มีการโอนจำนวนหุ้นให้ตามข้อตกลง ขณะที่ฝ่ายนายปริญญา ได้พาอดีตนายทหารชื่อดัง หรือที่คนรู้จักในชื่อ "ผู้กอง ม." เข้าไปพูดคุยไกล่เกลี่ยแต่ไม่เป็นผล จนเป็นคดีความวุ่นวายในเวลานี้
ส่วนตัวละครสำคัญ อย่างนายปริญญา ยังอยู่ระหว่างหลบหนีคดีในต่างประเทศ ขณะที่เบื้องหลังของบริษัทดราก้อน คอร์ปอเรชั่น ที่ครั้งหนึ่ง-เฮียม๊อ นักธุรกิจผู้มีชื่อเสียง และมีความใกล้ชิดกลุ่มโบนันซ่า เคยเข้าไปพัวพัน หวังผลักดันให้เกิดบริษัทขนาดใหญ่ คอยดูแลเรื่องการโอนเงินให้แก่คาสิโน ในมาเก๊า แต่ตัดสินถอนตัวออกมาเสียก่อน ขณะที่ปัจจุบันบริษัทดราก้อน มีความใกล้ชิดกับผู้มีอิทธิพลใต้ดินวงการพนันในมาเก๊า (นาย Wan Kuok-koi) อย่างมาก และนายจักรกฤช ซีอีโอบริษัทดราก้อน เคยวาดความฝันว่า ในอนาคตอันใกล้ จะสร้าง Dragon Pearl Casino Hotel ขึ้นมาเลยทีเดียว